01 กรกฎาคม 2552

ลูกรักของแม่

วานนี้แม่มีโอกาสผ่านไปทำธุระแถวโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง นึกขึ้นได้ว่าใกล้ๆกันนั้นมีร้านขนมสุดโปรดของคุณพ่อ แม่เลยจำใจต้องเขย่งรองเท้าส้นสูงปรี๊ด (ที่แม่คิดเอาเองว่ามันช่วยให้แม่สง่างามขึ้นแยะ) ดั้นด้นเดินจากปากซอยหน้าโรงเรียนสู่ร้านขนม เดินไปก็มองโน่นนี่ไปเรื่อย...โรงเรียนแห่งนี้เปลี่ยนแปลงไปบ้างเมื่อเทียบ กับหลายปีก่อนที่แม่เคยพาลูกมาเยี่ยมชม...ลูกคงจำไม่ได้แล้วล่ะ..โรงเรียน นี้ชื่อเสียงโด่งดังมาตั้งแต่สมัยโน้น จนพ่อกับแม่แอบฝัน อยากให้ลูกได้มาร่ำเรียนกับเค้าบ้าง แต่สุดท้ายเราก็พับโครงการนี้ไปเพราะโรงเรียนไกลจากบ้านของเราเหลือเกิน

แม่เชื่อในคุณภาพของโรงเรียนค่ะ..แต่แม่เชื่อในคุณภาพการเลี้ยงดูที่ เรามีเวลาใกล้ชิดกันอย่างผ่อนคลายมากกว่า..แม่ทนไม่ได้ที่จะต้องให้ลูกกินใน รถ โตในรถ..แม้แม่จะเป็นคนใจเย็นกับลูกที่สุด แต่ความเร่งรีบและชีวิตแบบนั้นคงไม่ทำให้เรามีความสุขนักหรอก..

ใครอีกหลายคนคงเชื่อในคุณภาพโรงเรียนเหมือนกับเรา แม่ได้ยินข่าวพ่อแม่แห่กันพาเด็กๆทั้งหลายมาแย่งชิงที่เรียนในโรงเรียนนี้ กันปีละนับพันคน แถมยังมีปรากฏการณ์ชื่อเสียงดี ๆ ของโรงเรียนเกิดขึ้นให้ได้รับรู้อยู่เสมอ เมื่อแม่เดินผ่านไปวานนี้ จึงไม่แปลกใจเลยกับป้ายคัทเอ๊าท์ขนาดบิ๊กบึ้มเชิดชูเกียรติคุณและแสดงความ ยินดีกับนักเรียนคนหนึ่งที่ไปคว้ารางวัลจากการแข่งขันวิชาการระดับโลกมาหมาด ๆ

ใบหน้าของพ่อหนุ่มน้อยในคัทเอ๊าท์นั้นดูแจ่มใส สายตาเป็นประกายด้วยความสุข ..แม่เป็นแค่คนรับรู้ความสำเร็จของเค้าจากแผ่นป้าย..ยังรู้สึกชื่นชม.. ภูมิใจไปด้วยเลย ดีจังที่โรงเรียนทำป้ายนี้ไว้เป็นตัวอย่างแก่เด็ก ๆ ..

หลังแม่ซื้อขนมถุงเบ้อเริ่มสมใจแล้วก็ต้องเดินย่องแย่งกลับมาทางเดิม เจ้าส้นสูงทำให้แม่เดินช้าลงเรื่อย ๆ และเก็บรายละเอียดระหว่างทางได้มากขึ้นด้วย..มีนักเรียนคนแล้วคนเล่าเดินก้ม หน้างุด ๆ แซงแม่ไปทั้งที่แต่ละคนแบกกระเป๋าใบยักษ์บนหลัง..เฮ้อ! เด็กสมัยนี้ต้องแบกบ้านพร้อมที่ดินมาเรียนหรือไร กระเป๋ามันถึงได้ใหญ่โตปานนั้น แต่..เอ๊ะ!เจ้านักเรียนกลุ่มข้างหน้าห้าหกคนนั้นกลับแปลกกว่าใคร ๆ พวกเค้าเดินช้า ๆ คุยกันโขมงโฉงเฉงจนแม่เดินมาทันกันที่หัวมุมโรงเรียนซึ่งคัทเอ๊าท์ใหญ่ยักษ์ นั้นตั้งตระหง่านอยู่ ขณะที่แม่เงยหน้าขึ้นมอง ขอสบตารูปถ่ายของคนเก่งอีกครั้งเหอะ..อยากสารภาพกับลูกจัง..ด้วยความเป็นแม่ ..หรือด้วยอะไรนะที่ทำให้อดคิดไม่ได้..ถ้าหนุ่มน้อยในรูปนั้นเป็นลูกของแม่ ....แม่คงจะ.....

ทันใดนั้น หนึ่งในนักเรียนกลุ่มข้างหน้าก็วาดแขนชี้ไปที่รูปคนเก่งในคัทเอ๊าท์ซึ่งแม่ แสนจะปลาบปลื้ม เสียงตะโกนลั่นของเค้าทำให้ความคิดคำนึงของแม่สะดุดลง เนื้อหาของคำพูดเรียกสติแม่กลับคืนมา

“ข้าเกลียดไอ้หมอนี่จังเลย..เมื่อไหร่มันจะเอาออกไป..เดินผ่านป้ายนี้กับแม่ทีไร ข้าถูกด่าทุกทีเลย..”

“ใจเย็นน่า..อย่างน้อยพวกเราก็รู้ว่านายพยายามที่สุดแล้ว ..คนมันไม่เหมือนกันนี่นา..”

ลูกจ๊ะ..เราสองคนต้องขอบใจหนุ่มเสียงดังกลุ่มนี้ค่ะ..ถ้าไม่มีคำพูด และท่าทีของเค้ามาเตือนสติให้แม่เข้าใจความแตกต่างของมุมมองและความเกรี้ยว กราดจากความคาดหวัง ..เราทั้งคู่คงต้องตกเป็นเหยื่อของความขัดแย้งที่ไร้ประโยชน์อีกครั้ง.. เพราะแม่กำลังตั้งใจจะใช้มือถือถ่ายรูปคัทเอาท์กลับไปให้ลูกดู..แล้วก็ด่า เอ๊ย!..ว่า..ลูกอยู่เหมือนกัน

รักลูกเสมอ..แม้บางครั้ง..หรือบ่อยครั้ง..แม่จะต่อว่าลูกมากไปหน่อย

หมออัมพร
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

โดยคนน่ารัก